วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ข้าวมันไก่ แสนอร่อย ครูอ้วน ชวนรู้


ครูอ้วน ชวนรู้

ข้าวมันไก่ 
ใครว่ายาก ?


ผมเคยขายข้าวมันไก่มา 8 ปี ล่าสุดอยู่ที่ตลาดรถไฟธนบุรี (ศาลาน้ำร้อน) ตอนนี้หยุด เพราะเหนื่อย มาทำงานอยู่บ้าน ลุงพร ชอนอาชีพ นำเรื่องของผมไปลงในหนังสือคู่มือทำกิน เคล็ดลับจากครู และเส้นทางเศรษฐี


     คืออย่างนี้ครับ  สูตรทั้งหมดนี้ผมเขียนตามที่ผมทำขายนะครับ ใครจะลดลงกี่ส่วนก็หารตามนั้นข้าวมันไก่จะแบ่งเป็นส่วน ๆ คือ

  1. ข้าวมัน
  2. ไก่ต้ม
  3. ไก่ทอด
  4. น้ำจิ้มไก่ต้ม
  5. น้ำจิ้มไก่ทอด
  6. น้ำซุป
  7. ผัก

ขอเริ่มข้าวมันก่อนแล้วกัน

  • ข้าวหอมมะลิ  6 กก. ผมใช้ข้าวหอมมะลิ 100 % เก่า 1 ปี หรือปีกว่า (2 ปีไม่ได้ เก่าเกินจะกระด้าง)   ห้ามซาวน้ำ ถ้าซื้อข้าวถุงก็ให้ดูที่อัตราส่วน ถ้าเขียนว่า ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1.5 ส่วนละก็ใช้ได้
  • น้ำเปล่า 9 กก.
  • เกลือ    4  ช้อนโต๊ะพูน (ใช้ช้อนก๋วยเตี๋ยวสั้น)  เกลือถุงที่เขาขายแพ็คละ 10 ถุง  ถ้าแบบ ถ้าเกลือปรุงทิพย์จะเค็มเกิน


  • น้ำตาลทรายแดงแบบเม็ด  7 ช้อนพูน   ทรายขาวหวานเกิน และไม่ดีต่อสุขภาพด้วย
  • ใบเตย  3 กำ (กำละ 1 ต้น)
  • มันไก่ 3 กระบวย (ขนาด 4 นิ้ว)   ใช้มันไก่ 1 กก.ล้างน้ำแล้วนำมาตั้งไฟเจียวพร้อมใบเตย 2 กำ   พอสังเกตว่ามันเริ่มเหี่ยวมากแล้วก็ใส่หอมแดงซอยซัก 7 - 8 หัว  ลงไปเจียวต่อจนหอมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก็ให้ช้อนกากทั้งหมดทิ้ง เหลือไว้แต่น้ำมันไก่
  • กระเทียมบดแบบไม่มีเปลือก 4 ช้อนพูน



ทีนี้ก็ขั้นตอนการหุง

     ใช้หม้อไฟฟ้าขนาด 7 ลิตร ตั้งน้ำเปล่า 9 กก. พร้อมใส่เกลือ 4 ช้อนพูน น้ำตาลทรายแดง 7 ช้อนพูน ใบเตย 3 กำ   ระหว่างรอน้ำเดือดก็ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันไก่ 3 กระบวย กระเทียมบด 4 ช้อนพูน   เจียวจนกระเทียมเริ่มเหลือง ก็ใส่ข้าวหอมมะลิ 6  กก.ลงไปผัดจนเม็ดข้าวเริ่มร้อน

     น้ำเดือดแล้ว ก็เทข้าวที่ผัดลงไป
คนข้าวช้า ๆ ไปทางเดียวกัน ระวังอย่าให้ติดก้นหม้อ
พอน้ำเริ่มงวดอาจจะใช้ไม้พายคนต่อก็ดีจะง่ายกว่า
ให้คนจนน้ำแห้งไม่เดือด ก็เกลี่ยข้าวให้เสมอกันสวยงาม ปิดฝา
ทิ้งไว้ 15 นาที เปิดฝาโดยยกขึ้นตรง ๆ แล้วนำน้ำที่ติดฝาหม้อทิ้งข้างนอก อย่าให้ไหลลงหม้อเดี๋ยวข้าวแฉะ
ใช้ไม้พายคนแบบพลิกจากข้างล่างขึ้นบน เป็นการกลับจากบนลงล่าง และจากล่างขึ้นบนทั้งหม้อ
เสร็จก็เกลี่ยข้าวให้เสมอปิดฝาต่ออีก 15 นาที
ครบแล้วก็เปิดฝาทิ้งน้ำเหมือนเดิม
คราวนี้จะได้ข้าวมันที่ทั้งหอมและอร่อย

ผมใช้จานเมลามีนขนาด 10 นิ้ว ค่อย ๆ ตักข้าวใส่กระติกน้ำแข็งแบบพลาสติกเกรด A  พักไว้
เอาหละ วันนี้แค่นี้ก่อน ง่วงแล้ว

จำไว้ว่าถ้าหุงน้อยกว่านี้ก็ลดลงตามส่วน ขอให้สนุกกับการหุงข้าวมัน

มาว่่าต่อเรื่องน้ำจิ้มไก่ต้ม
ยังยืนยันเหมือนเดิม ผมเขียนตามที่ผมขาย ใครอยากทำแค่ไหนก็ปรับตามอัตราส่วนนะครับ
ขนาดหม้อเบอร์ 40 เกือบเต็ม

1.ขิงแก่  3 กก
2.พริกแดงเด็ด 1 กก.
3.กระเทียมดองพร้อมน้ำ 1/2 กก.
4.กระเทียมไทย  6 ขีด
5.เต้าเจี้ยวเด็กสมบูรณ์สูตร 1     2 ขวดใหญ่
6.ซอสหวานเด็กสมบูรณ์อย่างดี  1 ขวดใหญ่
7.ซีอิ๋วขาวสูตร 5 เด็กสมบูรณ์     4 ขวดครึ่ง
8.น้ำส้มสายชูกลั่น 5 %    1,400 ซีซี
9.น้ำตาลปี๊บอย่างดี   1 กก.
10.น้ำตาลทรายแดงอย่างเม็ด  6 ขีด
11.ใบเตย  3 กำ (กำละต้น)
12.น้ำเปล่า  2.5 กก.
วิธีทำ
ขิงแก่เกลาส่วนทีเสียทิ้ง ไม่ต้องปอกเปลือก ล้างให้สะอาดพักไว้ 1 วัน
แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กขนาดที่เครื่องปั่นไม่ทำงานหนัก
กระเทียมใช้กระเทียมไทยกลีบเล็กหอมกว่า คัดส่วนที่เสียทิ้ง ไม่ต้องปอกเปลือก

น้ำเปล่า + น้ำตาลปี๊บ + น้ำตาลทรายแดง + ใบเตย
ตั้งไฟให้เดือดซักพัก ยกลงตักใบเตยทิ้ง พักไว้ให้เย็น

ปั่นตามลำดับ
เต้าเจี้ยว ปั่นละเอียด
พริกแดง ปั่นหยาบ
กระเทียม + กระเทียมดอง ปั่นละเอียด น้ำกระเทียมดองทั้งหมดเทลงหม้อน้ำตาล
ขิง ปั่นหยาบ
เทรวมในหม้อน้ำตาล
ซอสหวาน
ซีอิ๋วขาว
น้ำส้ม
ผงชูรส 6 ช้อนก๋วยเตี๋ยว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามอัธยาศัย)
คนให้เข้ากัน ชิมรส ให้ออก 3 รส เปรี้ยว หวาน เค็ม เท่านี้ก็ใช้ได้

ปกติเมื่อเสร็จแล้ว ผมจะตักใส่ถุงซุปขนาด 8 นิ้ว  ขนาดนี้ได้ 10 ถุง หรือ 15 ลิตร
ถึงเวลาใช้ก็แกะถุงเทใส่โถแล้วคน
เวลาจะตักแบ่งก็ให้คนทุกครั้ง ไม่งั้นจะมีรสใดรสหนึ่งหายไปอยู่ถ้วยอื่นไม่รู้ด้วย
น้ำซุป กับการต้มไก่
ผมใช้หม้อซุปช่องเดียวเบอร์ 50
ใส่น้ำหม้อหูเล็กเบอร์ 24     7 หม้อ
เครื่องปรุงซุป
1.น้ำตาลทรายแดงเม็ด  6 ช้อน
2.เกลือ 2 ถุง (ไม่ใช่ปรุงทิพย์)
3.ผงชูรส  3 ช้อน
4.รสดีไก่  1 ช้อนพูน
5.ซอสภูเขาฝาเขียว  1/2 กระบวย
6.ซีอิ๋วขาวสูตร 5   1 กระบวย
7.ใบเตย  3 กำ (กำละ 1 ต้น)

ตั้งไฟแรงให้น้ำเดือดก็เริ่มต้มไก่ได้
ไก่มี
1.ไก่ตอนเนื้อนุ่มอร่อยขนาด 3 - 3.5 กก.ต่อตัวกำลังดี
2.ไก่แก่ หรือไก่เหนียว เป็นไก่ไข่ที่เค้าปลดระวางแล้ว เนื้อหนังเหนียว ต้มนาน
3.ไก่อ่อน หรือไก่เนื้อ เป็นไก่ที่เลี้ยง 45 วันแล้วจับขายขนาด 2.5 - 3.0 กก.กำลังดี
4.ไก่บ้าน เป็นไก่พันธุ์พื้นเมืองที่เขาเลี้ยงให้มันออกกำลังกายตามบ้าน เนื้อจะเหนียวคล้ายไก่แก่
ผมเคยขายไก่ตอน  ราคาสูงมากเลยเปลี่ยนมาเป็นไก่เนื้อ
สั่งไก่ตัวมาแล้วปกติทางร้านจะทำมาให้เสร็จแล้ว เราเพียงแต่ล้างทำความสะอาดเท่านั้น
แยกเครื่องในไว้ต้มต่างหากพร้อมเลือด เพราะกลิ่นจะแรงมาก

เมื่อน้ำเดือดแล้วก็ให้นำไก่ตัวลงจุ่มจนน้ำท่วมตัว และน้ำเข้าไปในตัวไก่เต็ม แล้วยกขึ้นให้น้ำออกให้หมด
จุ่มลงใหม่อีก ทำอย่างนี้ 20 - 25 ครั้ง เพื่อให้น้ำร้อนเข้าไปลวกในตัวไก่จะได้สุกอย่างทั่วถึง
ปิดฝาหม้อทิ้งไว้ 15 นาที ลดไฟลงเหลือไฟกลาง ต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที
แต่ถ้าไก่ตัวใหญ่มากก็เพิ่มเป็น 40 นาที
ระหว่างนี้ก็เตรียมน้ำราดไก่โดยช้อนมันไก่ที่ลอยขึ้นมาใส่หม้อเบอร์ 24 ไว้ประมาณครึ่งหม้อ ใส่เกลือ 2 ถุง
เมื่อไก่สุกแล้วก็นำขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นก่อน แล้วตักน้ำราดไก่ราดให้ทั่วตัวแขวนขึ้นตู้พักไว้รอขาย
การเลาะไก่
เริ่มจากตัดคอก หัว และขาช่วงหัวเข่าลงไป แยกไว้
จับไก่คว่ำหันคอเข้าหาตัวเราเลาะปีกทั้งสองข้าง
จับไก่หงายท้องหันขาเข้าหาตัวเลาะช่วงสะโพกทั้งสองข้างซึ่่งจะติดน่องด้วย
หันด้านคอเข้าหาตัวเราอีกครั้งเลาะหน้าอกทั้งสองข้างโดยเริ่มจากส่วนปลายเข้ามาหาคอ
ที่เหลือก็เลาะตามอัธยาศัย ทั้งปีก สะโพกน่อง หน้าอก
เมื่อเลาะออกมาแล้วให้แช่น้ำราดไก่แป๊บเดียวก็เอาขึ้นวางรอเตรียมแล่เป็นชิ้น ๆ

ไก่ทอด
1.สะโพกเลาะกระดูก  1 กก.
2.น้ำตาลทรายแดงเม็ด 2 ช้อนพูน
3.รสดีไก่ 1 ช้อนปาด
4.ซอสภูเขาฝาเขียว 12 เหยาะ
คลุกเคล้าให้เข้ากันทิ้งไว้ประมาณ 1/2 ชั่วโมง
ใส่แป้งทอด UFM  1 ถ้วยน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยคลุกให้ทั่ว
5.เกล็ดขนมปัง FarmHouse
นำไก่ชิ้นลงคลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่วพักไว้ ทำจนครบ

ตั้งน้ำมันปาล์มกะว่าให้ท่วมชิ้นไก่พอร้อนขนาดทิ้งเกล็ดขนมปังลงไปแล้วฟู
ก็ให้เริ่มวางไก่ลงทอด ใช้ไฟกลาง พอขอบเริ่มเหลืองก็กลับด้าน
ทอดให้เหลืองขนาดเริ่มออกส้มหน่อย
นำขึ้นพักไว้ให้วางตะแคง เพื่อให้น้ำมันหยดลงตามขอบ
ก็จะได้ไก่ที่กรอบนอก นุ่มใน พร้อมทาน
สำหรับน้ำจิ้มก็ใช้น้ำจิ้มไก่ทอดทั่ว ๆ ไปได้ทันที

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โรคสมาธิสั้น

โรคสมาธิสั้น Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD)
โดย ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
โรคสมาธิสั้นคืออะไร
 
     เป็นกลุ่มอาการในเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม สมาธิสั้น ซนอยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น ยับยั้งตัวเองได้ลำบาก แสดงออกมาได้เป็น 3 กลุ่มคือ
  1. กลุ่มอาการของสมาธิ เช่น ทำกิจกรรมอะไรไม่ได้นาน ทำงานไม่เสร็จ ทำงานผิดบ่อย ๆ ไม่ใส่ใจรายละเอียด ขี้ลืมทำของหายเป็นประจำ เป็นต้น
  2. กลุ่มอาการซนไม่อยู่นิ่ง เช่น ยุกยิก อยู่ไม่เป็นสุข ลุกเดินในห้องเรียน วิ่ง ปีนป่าย เล่นแรง รอคอยไม่ได้ พูดมาก พูดแทรก เป็นต้น
  3. กลุ่มที่พบอาการร่วมกันทั้ง 2 แบบ อาการจะเกิดในหลายสถานที่ไม่ใช่เฉพาะที่โรงเรียนหรือที่บ้าน และเริ่มมีอาการตั้งแต่ก่อน อายุ 7 ปี เห็นอาการได้ชัดเจน ในช่วงชั้นประถมปีที่ 2 - 3 เนื่องจากเป็นช่วงวิชาเรียนมีความยาก และต้องการความใส่ใจในการเรียนมากขึ้น
สาเหตุ   
     เป็นความผิดปกติของการทำงานทางสมอง เช่น โรคลมชักภาวะน้ำแรกคลอดน้อยในทารกแรกเกิด เป็นต้น เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ทำให้ยับยั้งหรือควบคุมตนเองไม่ดี และไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงลูกที่ไม่ดี
อุบัติการณ์
     ประมาณร้อยละ 5 ในเด็กวัยเรียน ถ้าห้องเรียนมีนักเรียน 50 คน สามารถพบเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นได้ 2 - 3 คน
การวินิจฉัย
     อาการสมาธิสั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เลี้ยงดูตามใจ ไม่ฝึกวินัย สติปัญญาต่ำ เบื่อหน่าย ติดตามการเรียนไม่ทัน มีปัญหารบกวนจิตใจ เป็นต้น ดังนั้นการตรวจประเมินหาสาเหตุจึงเป็นสิ่งสำคัญ และต้องใช้ข้อมูลด้านการเรียนและพฤติกรรมในห้องเรียน ร่วมกับข้อมูลจากทางบ้าน และการสังเกตพฤติกรรมในห้องตรวจประกอบกันในการวินิจฉัย
การรักษา
  1. การให้ความรู้แก่พ่อแม่และคุณครูเพื่อให้เข้าใจการดำเนินโรค ข้อจำกัดของเด็ก
  2. การใช้ยาเพื่อช่วยให้มีสมาธิในการเรียนได้นานขึ้น
  3. การปรับพฤติกรรมที่บ้าน โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ขัดขวางการเรียนรู้
  4. การช่วยเหลือในห้องเรียน
     ภายใต้การช่วยเหลือที่เหมาะสม เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นก็สามารถประสบความสำเร็จในการเรียน เป็นเด็กดี และประสบความสำเร็จในชีวิตได้ตามศักยภาพเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก คลินิกกระตุ้นพัฒนาการ ร.พ.ตากสิน
ข้อมูลเพิ่มเติม  www.rcpsycht.org 

พ่อขอโทษ




พ่อขอโทษ












.....ที่



- ไม่ได้อุ้มท้องลูกเอง ทำให้แม่ต้องเหนื่อยตั้ง 9 เดือน


- วันลูกคลอดพ่อไม่ได้เข้าไปอยู่ด้วย

- พ่อทนรอลูกไม่ได้นาน ต้องขอลูกมาเลี้ยงเองตั้งแต่ยังไม่ถึงวัน

- พ่อจับลูกแรงไปนิด ดูซิเนื้อลูกอ๊อนอ่อน

- พ่อเผลอหลับเลยไม่รู้ว่าลูกฉี่ หรือหิวนม

- พ่อนั่งหลับคากาละมังซักผ้าอ้อมลูก

- พ่อทำอะไรไม่ถูกเวลาลูกร้องไม่หยุด

- ตอนลูกไม่สบายมากพ่อไม่มีรถยนต์เอง ต้องเรียกแท๊กซี่ที่ขับช้าที่สุดในโลกเลย

- หลายวันที่พ่อต้องกระเตงลูกขึ้นรถเมล์ไปทำงานด้วย

- ไปเรียนวันแรกลูกร้องไห้พ่อก็แอบน้ำตาคลอ

- พ่อมัวแต่ไปทำงานเลยไม่ได้สอนการบ้านลูกตอนเย็น

- เงินเดือนพ่อน้อยต้องขอนมโรงพยาบาลมาให้ลูก

- บ้านเราไม่ค่อยมีของเล่น พ่อเลยต้องเป็นวัว ควาย ช้าง ม้า ให้ลูกขี่

- พอลูกเริ่มโตพ่อก็ให้ลูกเข้าได้แค่โรงเรียนปานกลางเท่านั้น

- เสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ลูกก็เกรดย่อม ๆ 

- มหาวิทยาลัยก็ของรัฐ 

- บ้านอยู่พ่อก็หาได้แค่ทาวน์เฮาส์

ตั้งแต่ลูกเกิดจนถึงวันนี้ 24 ปีแล้ว

ถึงมีเรื่องมากมายที่ต้องขอโทษลูก


แต่พ่อก็รักลูกทั้งสองของพ่อมากที่สุดในโลกเท่ากันทุกวัน
5 ธ.ค.53


วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คนเก็บขยะ

หญิงชราตัวงองุ้ม นุ่งผ้าถุงสีดำมอซอ เสื้อเชิ้ตสีดำแบบชาวนา เดินเข็นรถที่มีเข่งและถุงพลาสติกห้อยอยู่ด้านข้าง สายตาสอดส่ายหาสิ่งของมีค่าจากสิ่งที่คนเรียกมันว่าขยะ
ยายครับ ผมเอาหนังสือพิมพ์เก่ามาให้ครับ
ขอบคุณนะคะ คุณเป็นคนมีน้ำใจงาม  ขอบคุณค่ะ

วันเวลาผ่านไปหลายวัน เหตการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ไม่เปลี่ยนไม่มีใครรู้ว่ายายเป็นใคร มาจากไหน มีครอบครัวหรือไม่แล้วลูกหลานยายไปอยู่ไหนกันหมดถึงทิ้งให้ยายมาเดินคุ้ยขยะอย่างนี้

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ฉันเป็นคนลาว

หนูมาจากปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว เมืองที่คนส่วนใหญ่มาใช้แรงงานที่กรุงเทพฯ
เขาพากันมา อยู่บ้านก็ไม่รู้จะทำอะไร ที่นั่นค่าแรงก็ถูก ลูกหลานก็เยอะ

ลูกโป่งไหมครับ ?

เรื่องเล่าของ อ้วน หนองแขม





"ลูกโป่งไหมครับ"
          เสียงนุ่ม ๆ น่าฟัง เรียกร้องให้เด็ก ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดมองด้วยลีลาการบิดลูกโป่งที่คล่องแคล่วยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ
"หนูอยากได้ตัวอะไรครับ หมา ลิง หมู นกแก้ว ดอกไม้ หรือหนอน"
"ตัวอะไรดีคะ"
"แล้วแต่หนูชอบละจ๊ะ"
"งั้นหนูอยากได้นกแก้วค่ะ"
"งั้นรอเดี๋ยวนะจ๊ะ"
ว่าแล้วก็จัดการสูบลูกโป่งแล้วบิดเป็นนกแก้วตามคำร้องขอ
ขณะเดียวกันสายตาของหนูน้อยก็เพ่งมองมายังลูกโป่งอย่างลิงโลด ระคนแปลกใจ และกลัวแตก

พ่อค้าเร่

ข้าวมันไก่อร่อย ๆ ทางนี้คร้าบ
เสียงเรียกร้องให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา